Hello “AI”

บ่อยครั้งที่เราเล่นคอมพิวเตอร์หรือฟังข่าวก็มักจะได้ยินคำว่า “เอไอ (AI) ที่ฉลาด” “แมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning) ที่เก่งกาจ” หรือ “ดีพเลิร์นนิ่ง (Deep Learning) ที่จะสามารถมาใช้งานแทนมนุษย์” เราก็จะคิดว่า โหวว อะไรจะเก่งขนาดนั้น แล้วคำแปลก ๆ ที่พูดถึงแต่ละอย่างนี่หมายถึงอะไรกัน แต่ความหมายที่แท้จริงของมันคืออะไรกันแน่ บทความนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปเปิดโลกของความฉลาดเหล่านี้กันครับ

Artificial Intelligence

อย่างแรกส่วนที่สำคัญที่สุดคือ AI (Artificial Intelligence) หรือในภาษาไทยถูกเรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ ครับ ซึ่งหมายถึง การสร้างให้เครื่องจักรกลมีความสามารถและกระบวนการคิดเหมือนมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นให้ทำงานเฉพาะให้บรรลุจุดมุ่งหมายใด มุ่งหมายหนึ่ง ซึ่งถูกใช้งานหลากหลายตามประเภทงานและอุตสาหกรรม

Machine Learning

ถึงแม้ว่าปัญญาประดิษฐ์จะถูกใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ แต่มีกระบวนการแก้ปัญหาของงานมาจากสิ่งที่เรียกว่า การเรียนรู้ของเครื่อง หรือ Machine Learning (ML) โดยให้เครื่องเรียนรู้งานใดงานหนึ่ง (Task) จากประสบการณ์หรือกลุ่มตัวอย่าง(Sample) เพื่อให้เครื่องนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Performance)

ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ สมมติเราต้องการให้ ให้เครื่องเรียนรู้ เครื่องในที่นี้หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ ในการเรียนรู้ของเครื่องเราก็จะสร้างงานให้เครื่องได้เรียนรู้ โดยงานที่ว่าก็อาจจะเป็นการจำแนกกลุ่มของข้อมูลหรือการทำนายต่าง ๆ ซึ่งการเรียนรู้ก็จะมีการเรียนรู้แบบมีผู้สอน การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอน และการเรียนรู้แบบกึ่งระหว่างมีผู้สอนและไม่มีผู้สอน

ในการสร้างแบบจำลองเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลนั้น ก็มีวิธีการมาจากการให้เครื่องคอมพิวเตอร์เรียนรู้งานใดงานหนึ่งจากชุดข้อมูลแล้วทำนายผลออกมา เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ นะครับ สมมติเราต้องการให้คอมพิวเตอร์ทำนายราคาบ้าน(Task) จากข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ราคาที่ดิน ระยะทางจากบ้านกับตัวเมือง และระยะทางจากขนส่งสาธารณะ จากนั้นเราก็จะให้ชุดข้อมูลหนึ่งที่ประกอบไปด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับราคาบ้านเพื่อให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้(ราคาบ้านคือผู้สอนเครื่องว่า ราคาที่ดินเท่านี้ ระยะทางจากบ้านกับตัวเมืองเท่านี้ และระยะทางจากขนส่งสาธารณะเท่าควรจะมีราคาบ้านเท่าไหร่)

หลังจากเรียนรู้เสร็จ เครื่องก็จะรู้ความสัมพันธ์ของชุดข้อมูลว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องแต่ละตัวจะส่งผลต่อราคาบ้านอย่างไร เช่น ราคาที่ดินมีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาบ้าน หากราคาที่ดินราคาเพิ่มขึ้น ราคาบ้านก็จะเพิ่มขึ้น เป็นต้น นอกจากเรียนรู้ความสัมพันธ์ของข้อมูลแล้ว เครื่องยังสามารถทำนายราคาบ้านจากความสัมพันธ์ดังกล่าวได้ สมมติเราต้องการรู้ว่า ราคาบ้านตรงนี้จะราคาเท่าไหร่ เราก็เอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องใส่ไปในแบบจำลอง จากนั้น เครื่องก็จะทำนายราคาบ้านออกมา และนี่ก็คือวิธีการเรียนรู้ของเครื่อง

Deep Learning

ในวิธีการเรียนรู้ของเครื่องก็แยกย่อยออกเป็นหลายประเภทขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งาน แต่วิธีการที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากก็คือ การให้เครื่องเรียนรู้ข้อมูลจากลักษณะของเซลล์ประสาท หรือที่เราเรียกว่าโครงข่ายประสาทเทียมนั้นเอง เรียกได้ว่าต้องการให้เครื่องเรียนรู้คล้ายคนเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาโครงข่ายประสาทเทียมให้มีความซับซ้อนที่มีความสามารถที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองและตอบสนองมนุษย์ได้ สิ่งนี้แหละครับที่เรียกว่าการเรียนรู้เชิงลึกหรือ Deep Learning

โดยสรุปแล้ว AI เปรียบเสมือนภาพกว้าง ๆ ของการสร้างเครื่องจักรให้มีกระบวนการคิดเหมือนมนุษย์ โดยใช้วิธีการสร้างเครื่องจักรจากการเรียนรู้ของเครื่อง(Machine Learning) และวิธีการในการเรียนรู้ของเครื่องที่ได้รับความนิยมก็คือ Deep Learning ที่สามารถเรียนรู้และตอบสนองกับมนุษย์ได้

Related products

Apisit Anuntawan

If data was magic, I would be a wizard. การศึกษาปริญญาตรีและโทจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีความถนัดในการทำข้อมูลและการสร้างแบบจำลอง โดยเฉพาะเรื่องของ Big Data, Machine Learning, และBayesian.

Similar tags

Apisit Anuntawan

การจัดการ Big Data (Hadoop และ MapReduce)

ในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data มักมีการใช้ระบบสถาปัตยกรรมแบบ Hadoop ในการจัดการข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Facebook หรือ eBay

Read more...
Apisit Anuntawan

สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า Big Data

เทคโนโลยี Big Data จริง ๆ ก็คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการกับข้อมูลที่ปริมาณมหาศาล มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความหลากหลายจากแหล่งที่มา

Read more...
Sirirat kantanat

Jupyter Notebook คือ เครื่องมือสำหรับ Data Science

เครื่องมือที่เราจะใช้ในการจัดการข้อมูลและการทำ Machine Learning ที่เรียกว่า Jupyter Notebook

Read more...