จากรายงานของ Deloitte’s annual retail holiday sales forecast ได้คาดการณ์ไว้ว่าช่วงเทศกาลคริสต์มาสจะมียอดการช้อปปิ้งออนไลน์สูงขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคาดว่ามูลค่ารวมจะสูงถึง £100 billion ในช่วงวันหยุดยาวปีนี้
ซึ่งหลาย ๆ คนที่ชอบช้อปปิ้งออนไลน์นั้นก็คงจะพบการ phishing attacks, spam email, malicious websites, viruses and other cyber attacks fighting ใน Email Account เพื่อขโมยเอาเงิน หรือข้อมูล
โดยจะมาในรูปแบบผู้ค้าปลีก บริการจัดส่งสินค้า หรือว่าบริการชำระเงิน มันจะส่ง phishing email แล้วจะไปก็อปปี้ ข้อความการขายของ หรือโปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ แนบพร้อมกับลิ้งหรือเว็บไชน์ปลอม ๆ เพื่อที่จะล้วงข้อมูลคนที่คลิกเข้าไป
สังเกตุได้จากข้อความที่ชวนให้สงสัยให้คลิกเข้าไป นอกจากนี้ข้อสังเกตุที่สำคัญที่ควรทำความเข้าใจไว้คือองค์กรจะไม่ขอข้อมูลลูกค้าทางอีเมลเด็ดขาด
หรือไม่มันก็จะมาในรูปแบบแจ้งเตือนว่าการชำระเงินของคุณล้มเหลวหรือมาข้อผิดพลาด ส่ง tracking number แล้วก็ Voucher ปลอม ๆ อีกด้วย
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณข้ามบทความนี้แล้วเผลอไปกดลิ้งดาวน์โหลดไฟล์แนบออกมา แน่นอนล่ะครับคุณได้ Install malware ที่แฝงมากับไฟล์แนบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แบบว่าแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป
แน่นอนเลยผลที่ตามมามันเลวร้ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- การที่โดนล้วงข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลทางการเงิน
- พยายามใช้อีเมลของเราส่งเมลที่เป็น malware ต่อ ๆ กันไปอีก
- เข้ามาคอบคุม Device ที่ติดตั้ง malware ดังกล่าวเข้าไป
แต่หากว่าคุณได้คลิก E – mail แปลก ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าพึ่งตกใจไปสิ่งที่คุณสามารถทำได้หลังจากนี้ก็จะลดความเสี่ยงไม่มากก็น้อยได้แก่ :
- ปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต : ปิด wifi เน็ตมือถือ เน็ตบ้าน ปิดให้หมด จะช่วยลดความเสี่ยงที่ Malware จาก Email ที่เราคลิกไปแล้วเข้ามาในคอมพิวเตอร์ของเรา
- Backup ข้อมูล : บางที่ malware บางชนิดสามารถเข้าถึง Database เพื่อ encrypt ข้อมูล หรือว่าลบไปเลยก็เป็นได้ ในเคสนี้หากคุณ Backup ข้อมูลเอาไว้บน cloud ก็จะสามารถกู้ข้อมูลได้สบายมาก ๆ
- สแกนคอมพิวเตอร์ของคุณ : ใช้ Anti – malware software สามารรถป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณได้
- เปลี่ยนรหัส : หากไม่เปลี่ยนคุณจะโดนล้วง Username และ Password ทุกเว็บที่ log in ค้างไว้ การทำแบบนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า account ของคุณจะไม่ถูกบุกรุก จะเป็นอะไรที่พลาดอย่างรุนแรงที่หลาย ๆ Account จะใช้รหัสเดียวกัน เพราะหากพวก Hacker รู้รหัสในบัญชีนึงที่นี้แหละ บัญชีอื่น ๆ ของคุณก็จะโดนไปด้วย ดังนั้นควรตั้งรหัสผ่านที่เดายาก ๆ ใช้เลขผสมกับตัวอักษรเพื่อให้แฮกเกอร์จะได้เดารหัสไม่ได้นั่นเอง
- ติดตั้งระบบแจ้งเตือน : ให้ติดต่อหน่วยงานของบัครเครดิตเพื่อทำการอายัตบัตรทันทีเมื่อเกิดการโจรกรรมข้อมูลเกิดขึ้น
- ดูให้ดี ๆ ก๋อนคลิก : ควรลบ Email ที่ไม่สามารถระบุตัวผู้ส่งได้ อย่างไรก็ตามถึงแม่ว่ารู้ชื่อผู้ส่ง ชื่อองค์กร หรือแบรนด์ก็ไม่ควรที่จะส่งข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลส่วนตัวทางอีเมลเพราะถ้าหากเป็นข้อมูลสำคัญทางบริษัทจะโทรศัพท์มาขอเอง
การลดความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลในช่วงคริสต์มาส ยังมีอีกแนวทางสำคัญที่ควรต้องคำนึงได้แก่
- ระวัง Retailers หน้าใหม่ให้ดี : ถึงแม้ว่าเราจะซื้อของจาก Vendors ที่น่าเชื่อถือแล้ว แต่ก็ยังมี Pop – up ขึ้นมาว่ามีส่วนลดช่วงเทศกาล และแสดงรีวิวของลูดค้าที่ใช้บริการซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นการรีวิวที่สร้างขึ้นมาไว้หลอกคนที่คลิกเข้าไปก็เป็นได้ ดังนั้นเช็คให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าหากยังอยากจะซื้อก็ควรเริ่มต้นจากของที่ไม่แพง
- เลือกใช้บริการ Retailer ที่เว็บไซต์มีความปลอดภัย : เว็บไซต์ที่มีความปลอกภัยจะแสดงรูปกุญแจบนแทบสถานะ และ URL จะเริ่มด้วย HTTPS ซึ่งมันจะระบุว่าเว็บเพจใช้โปรโตคอล SSL หรือ TLS มาตรฐานความปลอดภัยการถ่ายโอนข้อมูล การเข้ารหัสข้อมูล ตรวจสอบความถูกต้องของเซิร์ฟเวอร์และความสมบูรณ์ของข้อความ
- อัพเดท Software ในคอมพิวเตอร์บ่อย ๆ : อัพเดทโปรแกรมยังถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะแฮกเกอร์จะหาช่องโหว่จาก Bug ได้
- เช็ค Bank statements เป็นให้ประจำ : หากต้องการดูว่าเราใช้เงินกับอะไรบ้าง Bank Statement นี่แหละจะบอกเราได้ดีที่สุดเป็นวิธีพื้นฐานเพื่อดูความผิดปกติทางการเงินได้นั่นเอง
เทศกาลคริสต์มาส และช่วงวันหยุดปีใหม่นี้ถือว่าเป็นช่วงที่เป็นวันพักผ่อน และสนุกสนานแต่ในขณะเดียวกันพวกแฮกเกอร์ก็จะใช้ช่วงเวลานี้ในการขโมยข้อมูลผู้ใช้งานต่าง ๆ ดังนั้นการป้องกันข้อมูลจาก Cyber attacks เป้นสิ่งที่สำคัญ และจะต้องมาสติให้มากเพื่อที่จะป้องกันตัวเองในขณะที่กำลังช๊อปปิ้งออนไลน์